วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2556

เทศกาลสำคัญของลาว

         ลาว cerebrates เทศกาลประจำปีหลายๆเรียกว่า "Boun" ซึ่งจะยิ่งสนุกและสวยงาม signifying ด้านวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของลาว. เทศกาลส่วนใหญ่จะเชื่อมต่อกับศาสนาและข้าวรอบปีการเพาะปลูก. ระยะเวลาของเทศกาลจะคำนวณตามจันทรคติพุทธ.
ที่ Inhang เทศกาล Savannakhet จังหวัด


เทศกาลนี้จะจัดขึ้นในบริเวณของวิเศษนั่น Inhang เจดีย์ซึ่งตั้งอยู่นอกเมือง Savannakhet Province. งานการค้าระหว่างประเทศจะรวมงานแสดงสินค้าท่องเที่ยวจากลาวไทยและเวียดนาม. งานนี้ยังจะรวมถึงประสิทธิภาพของเพลงดั้งเดิมลาวและการเต้นรำเป็นกีฬาที่มีการแข่งขันฟุตบอล, มวย, เทนนิสและประเพณีท้องถิ่นรวมถึงการแข่งขัน drumming.
 
 
 
 




วัด Phou เทศกาล Champasack Province
เทศกาลนี้จัดขึ้นระหว่างดวงจันทร์เต็มสามของปฏิทินจันทรคติในบริเวณล่วงหน้าคม-Angkorian ปรักหักพังวัด Phou ใน Champasack. Festivities รวมเชื้อชาติช้าง, fights กระบือ, ไก่ชนเพลงลาวดั้งเดิมและการแสดงการเต้นรำ. ไปพ้องกับเทศกาลที่เป็นธรรมทางการค้าด้วยการจัดแสดงสินค้าที่เกิดจากใต้ลาวไทยกัมพูชาและเวียดนาม.
 
 







Sikhottabong เทศกาล Khammouane จังหวัด
sikhottabongนี้ดั้งเดิมเป็นเทศกาลทางศาสนาที่จัดขึ้นที่ Sikhottabong เจดีย์ตั้งอยู่ประมาณ 8 กิโลเมตรไปทางใต้ของเมือง Thakhek. เจดีย์สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 9 และ 10 โดยพระ Nantahsena และได้บูรณะให้ใหญ่โตเดิมในช่วง 1,950's.
 
 
 









 Boun เขาจิ (Makhaboucha)
boun khao chi พิธีจะจัดขึ้นที่ "วัด" (วัด) ในช่วงเช้าเมื่อขนมปัง "พิเศษทำข้าวเหนียว" มีให้. เทศกาลนี้จัดขึ้นระหว่างดวงจันทร์เต็มสามจันทรคติ.
Boun Khoun เขาหรือ Khoun Lan (Rice พิธี)
นี้เป็นผลงานที่จัดขึ้นที่ Songkhon อำเภอใน Savannakhet Province. "พิธี Basi" จะทำเพื่อขอบคุณเพื่อแผ่นดิน








 สัตว์แพทย์ Boun ผา
boun pha vetพิธีเสนอที่บริจาคจะได้และหนึ่งในอนาคตจะอ่านในช่วงสามวันสามคืนเทศกาล.
 
 
 
 
 
 
 







"Boun ปี่ Mai" ลาวของปีใหม่
ปีใหม่ลาวมีชื่อเสียงในเวลาเดียวกันในแต่ละปี (14-16 เมษายน). ปีนี้ 16 เป็นวันแรกของปีใหม่.
ใน 13 ที่พระพุทธรูปจะนำออกจากวัดให้สะอาดด้วยน้ำกลิ่นหอมจากปวงบ่าวและวางไว้ใน altars ชั่วคราวพิเศษภายในสารประกอบของ wats "(วัด).
ปวงบ่าวรวบรวมน้ำหอมล้มลงภาพเพื่อใช้ในบ้านและใช้ในการกรอกที่เพื่อนและญาติเป็นหน้าที่ของการทำให้สะอาดและบริสุทธิ์ก่อนเข้าปีใหม่. ในช่วงเย็นของวันที่ 15 นี้ภาพจะกลับไป shriners เหมาะสมภายในวัด.
Boun พายเชียงใหม่เป็นเวลาเฉลิมฉลองสนุกสนานมากด้วยความดีและละหมาดใน              ความคาดหมายปีใหม่.

Boun Bang Fai (จรวด Festival)
พิธีอาขยานสำหรับฝนจะทำที่วัดในตอนเช้า. ในช่วงบ่ายผู้ชุมนุมในช่องที่นอกเมืองของหมู่บ้านและเมืองเปิด rockets กับหลงละทิ้งมาก. หมู่บ้านชุมชนและแผนกชิง "ตกแต่งดีที่สุด" และ "การเดินทางสูงสุดจรวด". เริ่มต้นประมาณกลางพฤษภาคมนี้เป็นเทศกาลที่ได้ถูกย้ายจากสถานที่ที่สามารถมีส่วนร่วมมากขึ้นและเข้าร่วมประชุม. นี่คือเวลาที่เสนอให้ผีสามารถทำในมุมหนึ่งของสวนที่ต้นเช้าแต่ละ.
 
Visakhaboucha Boun
เทศกาลนี้จัดขึ้นระหว่างดวงจันทร์เต็มหกของปฏิทินจันทรคติของพระพุทธเจ้า. Processions แสงเทียนจะมีขึ้นในวัดที่ทำวันเดือนปีเกิดของพระพุทธเจ้า.
Boun Asalahaboucha และ Boun เขา Pansa (เข้าพรรษา)
นี้ต้นเข้าพรรษา. ในช่วงระยะเวลาสามเดือนพระภิกษุใช้จ่ายส่วนมากของเวลาในการละหมาดและการทำสมาธิและถูกจำกัดจากการคืนค่าใช้จ่ายใน wats "อื่นๆ". เทศกาลนี้จัดขึ้นระหว่างดวงจันทร์เต็มแปดของปฏิทินจันทรคติ.
Boun เขา Padabdin (ข้าว) และการแข่งเรือประเพณีในหลวงพระบาง
ณวันที่เขาพิธี Padabdin คนไปวัดพื้นที่เพื่อเซ่นปู่ตาตายเป็นกุศลร่วมกันเพื่อทำให้. เทศกาลนี้จะมีแข่งเรือในน้ำ Khan แม่น้ำและการค้ายุติธรรมในหลวงพระบางเมืองมรดกโลก.
Boun เขา Salak (Rice)
นี้สำหรับการไหว้ปู่ตาจะทำให้คนตายได้รับบุญ. นิยมและเรือบดลำใหญ่ที่น่าตื่นเต้น-แข่งขันแข่งจะมีขึ้นเพื่อฉลอง River. เทศกาลนี้จัดขึ้นระหว่างดวงจันทร์เต็มสิบของปฏิทินจันทรคติ.
 
 




 
เรือแข่งเทศกาล Khammouane จังหวัด
นี้จะจัดขึ้นใน Sebangfai River. ในคราวเดียวกันการค้ายุติธรรมของสินค้าเกษตรหัตถกรรมท้องถิ่นดั้งเดิมเพลงลาวและการเต้นรำที่จัด. ในเทศกาลนี้ให้ประชาชนบริจาคไหว้ปู่ตาตายได้รับบุญ.
 
 
 
 
 







Boun ตกลง Phansa และแข่งเรือประเพณี
เทศกาลที่จัดขึ้นหลังจากที่สิ้นสุดของพระสงฆ์ 'สามเดือนที่รวดเร็วและหนีระหว่างฤดูฝน (Boun เขา Pansa). ยามเช้าในวันแรกที่บริจาคและเสนอจะทำในวัดทั่วเมือง. ในตอนเย็น, processions แสงเทียนจะจัดขึ้นที่วัดและร้อยสีสันที่ช่วยลอยตัวติดประดับด้วยดอกไม้ธูปเทียนและตั้งไม่มีจุดหมายลงแม่น้ำโขงเพื่อนมัสการวิญญาณแม่น้ำ. วันต่อไปนี้ในเวียงจันทร์, Savannakhet และ Champasack จังหวัดเรือแข่งขันนิยมและน่าตื่นเต้นแข่งอยู่เพื่อเฉลิมฉลองแม่น้ำโขง.
 
 


Khathin Boun
เทศกาลนี้เริ่มต้นทันทีหลังจากวันสุดท้ายของ Lent และเวลาจนกระทั่งดวงจันทร์เต็มไป. ในช่วงเดือนหนึ่ง devotes ศาสนาพุทธช่วยเหลือพระภิกษุที่จะดำเนินการปฏิบัติศาสนาของพวกเขาโดยการเสนอของทั้งหมด 9 requisites และรายการที่มีประโยชน์อื่นๆ.

ที่หลวงเทศกาลและ Trade Fair ในเวียงจันทน์ Capital
ศาสนาเทศกาลนี้จัดขึ้นในและรอบที่เจดีย์หลวงซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งชาติของลาวซึ่งนับพระภิกษุรวบรวมรับบริจาคและ votives ดอกไม้จากคน. เทศกาลรวมดอกไม้ไฟใหญ่แสดงในเวลากลางคืน. ระหว่างวัน, การค้าระหว่างประเทศยุติธรรมการนำเสนอการท่องเที่ยวในประเทศลาวและประเทศอื่นๆจากอาเซียนและปริมณฑลโขงย่อยภูมิภาค. ในช่วงเวลาเดียวกันเทศกาลเดียวกันยังโด่งดังที่ชิง Tim เจดีย์หลวง Namtha Province.
 
 


ธันวาคม 2
ชาติวัน, Lao.P.D.R ครบรอบ
 
 
 
 



ม้งปีใหม่ใน Oudomxay, Xieng Khouang, หลวงพระบางและเวียงจันทน์จังหวัด (ระหว่างกลางเดือนธันวาคมถึงมกราคม)
ปีนี้ฉลองปีใหม่ม้งคุณสมบัติการแสดงสีสันของเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิมทำจากสีเขียวเป็นสีแดงและสีขาวไหมและเครื่องประดับเงินฟุ่มเฟือย. เพลงจากตราสารม้งแบบดั้งเดิมเช่น teun-ขลุ่ย, ม้ง-ท่อ khene สไตล์และทิ้งระเบิดมีความสุข. Festivities อื่นๆได้แก่ Makkhon (ฝ้าย-ลูก) การขว้างปาพิธี, ต่อสู้วัว, กรอ-ผิวด้านบนและสาธิต crossbow.

เหล่าคนดังในลาว

       
        ลาวถือเป็นประเทศหนึ่งที่ประชาชนนิยมชมชอบเหล่าคนดังมิใช่น้อย ตอนนี้ธุรกิจบันเทิงในประเทศลาวเริ่มขยายตัวขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีข้อจำกัด และข้าพเจ้าเชื่อว่า น่าจะเพิ่มขึ้นไปกว่านีเอีกเป็นแน่ นอกจากนี้โลกอินเทอร์เน็ตยังกว้างไกลขึ้น ส่งผลให้เหล่าบันเทิงคนสวยคนหล่อชาวลาวโด่งดังเปรี้ยงปร้างในโลกอินเทอร์เน็ต โดยไม่ต้องเป็นไฮโซ คนดัง เลยด้วย




มาดูคนแรกดีกว่า หมอสาวสวยคนนี้ที่เธอโด่งดังในโลกอินเตอร์เน็ตของประเทศลาว

จันดาลี สิดพะไซ หรือ หมอเนง
  




          หมอสาวสวยจากรุงเวียงจันทร์ ที่นอกจากจะเป็นหมอแล้ว หมอเนงเธอยังเคยเข้าร่วมประกวดมิสลักซ์ 2004 ด้วยความสามารถพิเศษของเธอทั้งฟ้อนรำ ร้องเพลง ตีขิม จนเป็นที่ประทับใจ และคว้ามงกุฎมิสลักซ์ 2004 มาครองได้สำเร็จเพียงอายุแค่ 18 ปีเท่านั้น


คนที่สอง อเล็กซานดร้า บุญช่วย
สาวคนนี้ คนไทยน่าจะรู้จักกันดีในฐานะนางเอกละครชองวิก 7 สี


         อเล็กซานดร้า บุญช่วย ดารานักร้อง ลูกครึ่งลาว-บัลแกเรีย หรือชื่อเต็ม อเล็กซานดร้า ธิดาวัลย์ บุญช่วย  ปัจจุบัน เธอคือ ซูเปอร์สตาร์ท็อปสุดของลาว   ซึ่งจริงๆ เธอมีชื่อเสียงมาตั้งแต่ อายุ  16 ปี ด้วยคอนเสิร์ตของเธอในเวียงจันทน์  แม้ว่า เธอจะเป็นลูกครึ่ง แต่ชอบแต่งตัวด้วยการนุ่งผ้าซิ่น  เห็นแล้วน่าชื่นใจจริงๆ


มาดูสาวน้อยวัยใสกันบ้าง

น้องจีจี้ หญิงลาวสาวสวย ซึ่งตอนนี้กำลังฮอตฮิตเป็นที่พูดถึงกันเป็นอย่างมาก น้องจีจี้ เป็นผู้หญิงที่หน้าตาน่ารัก ไม่เหมือนเด็กลาวเลย จึงเป็นที่สนใจของคนในเว็บต่างๆ  จีจี้ ถูกกล่าวขวัญว่าเป็น สาวลาวไอดอล ใน อินเทอร์เน็ตเลยทีเดียว มาชมความน่ารักของเธอกัน…






แอปเปิ้ล สีสะเหงี่ยน ไฮโซสาวหน้าสวย 

หรือที่ชาวลาวรู้จักกันในนามของ คุณหนูแอปเปิ้ล เธอเป็นคนลาวแท้ ๆ แต่กำเนิด เธอเข้าวงการบันเทิงลาวมาตั้งแต่อายุ 14 ปี แถมยังเคยเป็นนักร้องเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังของประเทศลาว แต่เมื่อเวลาผ่านไปเพื่อน ๆ ในวงก็โตกันแล้ว จึงตัดสินใจแยกย้ายไปเรียนต่อ ซึ่งแอปเปิ้ลได้เลือกเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในประเทศไทย และตอนนี้เธอได้ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...







คำลี่ พิลาวง ชื่อเล่น อาลี่



เธอเป็นนักแสดงชาวลาว ลูกครึ่งจีน-ลาว ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสองจากการประกวด Miss Lux 2006 ก่อนที่จะมีผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก สะบายดี หลวงพะบาง คู่กับอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ในปี พ.ศ. 2551 โดยถือเป็นนางเอกคนแรกในรอบ 35 ปี ของวงการภาพยนตร์ลาว
นอกจากนี้เธอยังได้แสดงคู่กับพระเอกชื่อดังของไทยอีก 2 คน คือ บอย ปกรณ์ และ เรย์ แม็คโดนัล

และในปีนี้เธอก็มีภาพยนตร์สยองขวัญอีก 1 เรื่องที่เธอได้รับบทนักแสดงนำ คืดเรื่อง ผ้าพันคอแดง และกำลังมี อีก 1 เรื่อง คือ สะบายดีปากเซ-หลวงพระบาง



กิก ไพรินดา พิลาวัน
ดีกรี Miss Laos ปี 2006 ปัจจุบันเธอเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงในประเทศลาว ในภาพยนตร์ "รักอ่ำหล่ำ" เป็นหนังสัญชาติลาว ที่หวังมาแจ้งเกิดในประเทศไทย







และอีกคนคนที่เห็นจะไม่พูดถึงไม่ได้ ณ ตอนนี้ ก็คือ
อาลี่ นักร้องนำ สาวสวยวง Shawty เกิร์ลแบรนด์แห่งเมืองเวียงจันทร์ ทั้งสวย ทั้งเสียงดีจริงๆ
วัยรุ่นลาว : https://www.facebook.com/ALee.P.Laos





ต่อมาเป็นทางฝั่งผู้ชายบ้าง แนะนำวง Cells
วงนี้มีชื่อเสียงในลาวมาก เป็นวงร็อคชั้นดีของเมืองลาว และยังดังข้ามฝั่งโขงมาในไทยอีกด้วย ในผลงานเพลง "หวาน" นั่นเอง




อีกวงมาเปลี่ยนแนวกันบ้าง เป็นวง Hip Hop สายเลือดลาวแท้ๆ ที่ฮิตติดลมบนในหลายๆเพลงของพวกเขา และก็ฮิตในไทยไม่แพ้ วง Cells เลยทีเดียว

นั่นคือ วง L.O.G




วง L.O.G กับวง Cells เขาเป็นคู่หูดูโอ้ กอดคอกันดังเป็นพุแตก ในเพลง"หวานต้นจืดปลาย"
วัยรุ่นไทยคงเคยผ่านหูกับเพลงนี้มาบ้างแล้ว


ส่วนหนุ่มคนนี้ กิมมี่ อุนพวัน แสงดาวัน





หรือถ้าเรียกแบบขำๆ เอาน่ารัก จะเรียกว่า 'ฟิล์ม รัฐภูมิ เมืองลาว' ก็ได้ แต่เราก็ไม่อยากให้มีการเปรียบเทียบ เพราะเราเชื่อว่าฝีมือของแต่ละคนก็มีกันแตกต่างกันออกไป เปรียบเทียบกันไม่ดีแน่นอน กิมมี่เป็นศิลปินแนวป๊อบผสมอาร์แอนด์บี ฮิตมากในลาวช่วงหนึ่ง ตอนนี้เงียบๆ ไป เคยดังถึงขั้นรายการสาระแนบุกไปถึงลาว ให้กิมมี่พาเที่ยวมาแล้ว
เหล่าคนดัง ทั้งนักแสดงนักร้อง หรือเน็ต ไอดอลของลาว หน้าตาดีไม่แพ้ไทยเราเลยจริงๆ ถึงแม้ว่าวงการบันเทิงของลาวยังมีข้อจำกัดอยู่อีกมาก แต่รับรองได้ว่า อีกหน่อยต้องรุ่งแน่ๆๆ


วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556

10 อันดับ ไม่ควรพลาดเมื่อไปประเทศลาว




10 อันดับดังต่อไปนี้ จะพอเป็นGuideฉบับรวบรัดให้กับทุกคนที่กำลังจะไปเที่ยวหรือใครก็ตามที่สนใจนะคะ รู้สึกเห็นด้วยไม่เห็นด้วยก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้


1.Local Eating: แป้งจี่ Fast-foodฉบับลาว
         แป้งจี่ของลาวแท้ๆ ดูก็รู้ว่าได้อิทธิพลบาเก็ตต์(baguette) ของฝรั่งเศสมาเต็มๆ Fast-food ฉบับลาวที่หน้าตาคล้ายแซนวิชไม่มีผิดเพี้ยน ต่างก็เพียงไส้ของลาวจะใส่สารพัดและยัดลงไปในขนมปังเป็นปริมาณมาก อัดแน่นจนล้นทะลักตัวขนมปังออกมา ไส้มีหลายอย่างตั้งแต่หมูสับ หมูแดง แฮม ตับบด ไก่ทอด ไข่ดาว ผักสลัด มะเขือเทศ แตงกวา แครอท หอมหัวใหญ่ ต้นหอม ทาเนยใส่ซอสพริก มีให้เลือกทั้งก้อนเล็ก กลาง ใหญ่ ตามความพอใจของผู้กินค่ะ


2. Local Eating เฝอลาว ก๋วยเตี๋ยวใส่ซอสพริก

เฝอหรือก๋วยเตี๋ยว เป็นอาหารยอดฮิตที่เรารู้จักกันดี หาทานได้ง่ายและก็ไม่แปลกเกินรับประทาน ที่ลาวจะมีเฝอหลายประเภททั้งเฝอหมู ไก่ เนื้อวัว ซึ่งเนื้อสัตว์ที่ใส่มักจะใส่เป็นชิ้นๆลวก ไม่ค่อยใส่ลูกชิ้น เหมือนพวกก๋วยเตี๋ยวเนื้อสดบ้านเรานั่นแหละค่ะ


        แต่จะกินก๋วยเตี๋ยวแบบลาวทั้งที ถ้าปรุงพริกป่นน้ำปลาน้ำตาลเหมือนทานอยู่บ้านเรามันจะไปได้รสชาติอะไรกันคะ.. จะให้อร่อยมันต้องโขยก !!! ค่ะ โขยกขวดซอสพริก(ที่นำเข้าจากไทย) ซึ่งวางเป็นเครื่องปรุงอยู่กลางโต๊ะนั่นแหล่ะ มันจะทำให้น้ำซุปเปลี่ยนเป็นสีแดงข้น รสชาติหวานๆเปรี้ยวๆอร่อยดี แต่ถ้ายัง deepไม่พอก็ให้แนมกับพริกขี้หนูหรือถั่วฝักยาวจิ้มกะปิ ซึ่งก็จะวางอยู่บนโต๊ะเช่นเดียวกันค่ะ




3. Drink: จิบ “ลาวเกรีย”

มีร้านอาหารชื่อดังร้านนึงในเวียงจันทน์ เค้าproudly present เครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่มีที่ร้านนี้เท่านั้น ที่ทำเอาเมนูอย่างไหมไท กามิกาเซ่ต้องชิดซ้ายไปเลย....

        ลาวเกรีย(Laogria) คอกเทลที่คิดค้นขึ้นมาเฉพาะร้านนี้ สูตรคิดค้นขึ้นเฉพาะแต่ไม่ใหม่เพราะเพี้ยนมาจากแซงเกรีย “Sangria” เครื่องดื่มแสนสดชื่นสัญชาติสเปนนั่นแหล่ะค่ะ พอเอ่ยถึงแซงเกรีย หลายคนคงร้อง อ้อ....กันแล้ว ต้นตำรับนั้นคือไวน์แดงหรือไวน์ขาวผสมผลไม้สดไม่ว่าจะเป็นส้ม เลมอน แอปเปิ้ล เบอร์รี่ และพีช เติมความหวานเล็กน้อยด้วยน้ำผึ้ง ใส่บรั่นดีหรือสปิริตและก็เติมความซ่าและความสดชื่น ด้วยโซดากับน้ำแข็งเป็นการปิดท้าย ตอนนี้ย้อนกลับมาทีลาวเกรียของเรากันบ้าง แทนที่เค้าจะใส่ผลไม้ฝรั่งอย่างเบอร์รี่ พีช หรือแอปเปิ้ล ก็เปลี่ยนมาเป็นผลไม้พื้นบ้านของลาวอย่างกล้วย สัปปะรด และก็มะนาวเป็นแว่นๆแทนยังไงล่ะคะ เป็นการดัดแปลงที่เข้ากันได้เยี่ยม จิบแล้วสดชื่นกันถ้วนหน้าเชียวค่ะ


        เครื่องดื่มจะเสิร์ฟมาในเหยือกพร้อมช้อนสำหรับตักผลไม้ที่กองอยู่ก้นถ้วย จำไม่ได้แล้วว่าใครเป็นคนแนะนำว่าห้ามพลาด เอาเป็นว่าฉันขอย้ำอีกแรงว่า -อย่าพลาด- ก็แล้วกัน



4 .Chill out : 1 dayจัมโบ้ทัวร์ เวียงจันทน์
DSC_4558
        จัมโบ้ (สามล้อบ้านเรา) เป็นพาหนะที่สามารถพาเราสำรวจเมืองหลวงประเทศลาวแห่งนี้ได้ภายใน1 วัน มายคิดว่าเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจมากเพราะเหมือนว่าเรามาเที่ยวหนองคายแล้วได้เที่ยวต่างประเทศเป็นของแถม เก๋มั๊ยล่ะคะ

        หลังจากที่เรานั่งรถข้ามสะพานมิตรภาพ ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของลาวเรียบร้อย ตรงที่ด่านนั้นก็จะมีรถตู้ รถบัสและจัมโบ้รออยู่สารพัด ยืนอยู่เฉยๆเดี๋ยวก็มีคนเดินเข้ามาถามเองว่าจะเหมารถรึเปล่า ก็บอกไปเลยว่า ทัวร์เมือง 1 วัน พาไปไหนบ้าง ตกลงราคาและเวลาจำนวนชั่วโมง เอาให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง กันโดนโกง !

        ปกติรถจะพาไป 6 ที่คือพระธาตุหลวง(พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองเวียงจันทน์), ประตูชัย(สิ่งก่อสร้างที่หน้าตาคล้าย Arc de triomphe de l'Étoile ที่ปารีสเพราะเค้าได้อิทธิพลกันมา), แล้วก็แวะตลาดเช้า กินข้าวเที่ยง, ไปต่อกันที่วัดสีสะเกด, หอพระแก้ว(อดีตสถานที่ประดิษฐานองค์พระแก้วมรกตของบ้านเรา) และสุดท้ายคือ วัดสีเมืองค่ะ(วัดศักดิ์สิทธิ์ของชาวเวียงจันทน์) ปกติทัวร์ทั้งหมดก็ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงเริ่มตั้งแต่ที่ด่านประมาณ 10 โมงเสร็จส่งที่ด่านข้ามกลับประเทศไทยก็ประมาณบ่ายสามพอดี ราคา 1 วัน(5 ชั่วโมง)ประมาณ 500-600 บาทค่ะ






5. Natural : ถนนลอยฟ้า วังเวียง-หลวงพระบาง

        บนเส้นทางจากเวียงจันทร์ไปหลวงพระบางหรือถนนสาย13 เป็นเส้นทางวิ่งบนเขาตลอด13 ชั่วโมง ซึ่งอาจต้องแลกมาด้วยความอันตรายและฮาก(อาเจียนในภาษาอีสาน) เป็นปริมาณมากกันบ้าง แต่ก็คุ้มแสนคุ้มเชื่อสิ !

        เส้นทางเริ่มต้นจากเวียงจันทร์ไปวังเวียงประมาณ 5 ชั่วโมง ถือเป็นการรับน้องเบาะๆ มีขึ้นเขาผ่านลำห้วยบ้างพอเป็นกระศัย ระหว่างนี้เราก็ชื่นชมธรรมชาติสองข้างทางไป พอเริ่มพ้นเขตวังเวียงไปเท่านั้น อีก 8 ชั่วโมงต่อจากนี้จะมีแต่ความสุขแบบโหดหฤหรรษ์ละค่ะ

        ระหว่างทาง รถจะแวะพักยืดเส้นยืดสายที่กาสี เพราะตั้งแต่กาสีเป็นต้นไป รถจะเริ่มไต่เขาไปเรื่อยๆ โค้งซ้ายโค้งขวา มารู้ตัวอีกทีก็ถึงยอดเขา จากนั้นรถก็จะวิ่งบนสันเขาอันแสนคดเคี้ยวตลอดเส้นทางสมกับคำเปรียบเปรยที่ว่าเป็น "ถนนลอยฟ้า " อย่างแท้จริง
        รถจะพาเราขึ้นยอดเขาลูกแล้วลูกเล่า วิ่งลดระดับลงและไต่ขึ้นสู่ยอดภูเขาลูกต่อไป ตลอดสองข้างทางของถนนลอยฟ้าจะมิวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติที่สวยงามมาก มีทุ่งดอกบัวตองและดอกหญ้าหลากสีให้ชมเป็นระยะ แต่แน่หล่ะเมื่อเผลอมองไปข้างล่างก็เป็นเหวของแท้แน่นอนเช่นเดียวกัน และหากมองลึกเข้าไปในผืนป่าเราอาจเห็นชาวลาวภูเขาสะพายปืนอาก้าอีกด้วย ตื่นเต้นมั๊ยล่ะ


 
6. Chill out : ธรรมชาติ วังเวียง

        “วังเวียง” อดีตเมืองฐานที่ตั้งกองบินฝรั่งเศสแห่งนี้ เคยมีคนกล่าวไว้ว่าเป็นเมืองคู่แฝดเมืองปาย บ้างก็อ้างว่าเป็นกุ้ยหลินเมืองลาวบ้างล่ะ จะอย่างไรก็ตามนั่นก็คงมาจากความงดงามทางธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์นั่นเอง
 
        ที่วังเวียงเราจะได้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์จริงๆแบบไม่เคยสัมผัสมาก่อน ธรรมชาติทักทายคุณตั้งแต่เช้า โดยตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของหมอกขาว สายๆเราออกบริหารร่างกายด้วยการไปปีนถ้ำ เที่ยงพักกินข้าวเหนียวเติมพลังหลังพิงต้นไม้ข้างลากูนสีเขียวมรกตแถมด้วยการเล่นน้ำแหวกว่ายในลากูนพอเป็นพิธี บ่ายคล้อยได้เวลาไปล่องห่วงยางแม่น้ำซอง กิจกรรมสุดฮิตของวังเวียง ตกเย็นมาเดินเล่นทานข้าวในเมืองภายใต้ผืนฟ้าดวงดาวระยิบระยับนับล้านดวง แล้วก็เข้านอนอย่างมีความสุข



7. Sightseeing : สุดยอดแห่งสถาปัตยกรรมที่วัดเชียงทอง
        สุดถนนสีสะหว่างวงตรงจุดที่แม่น้ำหลักสองสาย คือแม่น้ำโขงกับแม่น้ำคาน(ปากคาน) มาบรรจบกัน ที่นี่คือที่ตั้งของสุดยอดแห่งสถาปัตยกรรมล้านช้าง “วัดเชียงทอง

        วัดเชียงทอง สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช มีโบสถ์(สิม)ทรงหลังคาปีกนกซ้อนเป็นลำดับลงมา 3 ชั้น เป็นศิลปะล้านช้างที่งดงามและสวยงามที่สุดในประเทศลาว บนยอดสิมประดับด้วยช่อฟ้า17 ช่อ บ่งถึงว่าเป็นวัดที่พระมหากษัตริย์เป็นผู้สร้าง เมื่อชื่นชมศิลปะภายนอกตัวอาคารแล้ว ควรเข้าไปนั่งละเลียดชมความงดงามทางสถาปัตยกรรมภายในกันต่อ ซึ่งประกอบไปด้วยภาพลายฉลุลงรักปิดทองที่บานประตู และจิตรกรรมฝาผนังลายรดน้ำเป็นเรื่องเกี่ยวกับนิทานพื้นบ้านของลาว

        ภายในอาณาเขตของวัด ยังมีสถาปัตยกรรมอื่นๆที่น่าสนใจ เช่นโรงเมี้ยนโกศ หรือโรงเก็บราชรถ, หอพระม่าน และหอพระพุทธไสยาสน์ที่มีผนังสีชมพูบานเย็นประดับด้วยกระเบื้องสีบอกเล่าเรื่องราวทางศาสนา นิทานพื้นบ้านและชีวิตชาวหลวงพระบาง ซึ่งได้ลายอันมีเอกลักษณ์เหล่านั้นได้กลายสัญลักษณ์บนถุงดินสอ ผ้าทอ และของที่ระลึกของหลวงพระบาง



8. Shopping : ตลาดมืด หลวงพระบาง
       
            แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตจากถนนที่ใช้สัญจรไปมา กลายเป็นสถานที่การรวมตัวกันอย่างไม่ได้นัดหมายของทั้งนักขายและนักช๊อปใจกลางหลวงพระบางอย่างนี้ทุกๆคืน เรียกได้ว่าเป็นแหล่งซื้อของฝาก ของที่ระลึกราคาถูก มีตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ถุงดินสอ สมุด ปากกา กระดาษสา กรอบรูป ภาพวาด ภาพปัก ผ้าปูที่นอน โคมไฟ และอีกมากมาย ของขายแต่ละร้านดูเผินๆท่ามกลางความมืดอาจนึกว่าเหมือนกัน แต่จริงๆแล้วของพวกนี้เป็นงานhand madeที่เลียนแบบกันมา ฉะนั้นฝีมือร้านไหนดีกว่ากันจะต้องเปรียบเทียบก่อนซื้อเพื่อความไม่ประมาทและได้ของดี สีสันของตลาดมืดมีแต่ความสนุกสนานท่ามกลางเสียงต่อรองราคาระหว่างนักช๊อปชาวไทยกับชาวลาวที่พูดไทยได้คล่องปรื่อ แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ฉันชอบที่สุดของตลาดมืดก็คือ การที่ฉันได้เดินช้อปปิ้งภายใต้หลังคาดวงดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้า ปราศจากแสงไฟนีออนมาบดบังความงามทางธรรมชาติช่างแสนโรแมนติกเหลือเกินเชียวหล่ะ


9. View on Top: พระอาทิตย์ตกดินที่พระธาตุพูสี

             พระธาตุพูสี เปรียบเสมือนหลักเมืองหลวงพระบางที่ตั้งอยู่บนยอดพูสี ภูเขาใจกลางเมืองของหลวงพระบาง การจะขึ้นไปชมนมัสการพระธาตุ จะต้องเดินขึ้นบันได328 ขั้นซึ่งประดับไปด้วยจำปาลาวหรือลีลาวดีของบ้านเราตลอดสองข้างทาง พอขึ้นมาถึงยอดพู รับรองว่าจะหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เพราะไม่เพียงแค่จะได้ขึ้นมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธ์คู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบางแต่วิวบนพูสีนั้นก็สวยงามมากจนกลายเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินยอดนิยมถึงขนาดว่ามีแนะนำอยู่ใน guidebook ทุกเล่มเลยทีเดียว



10. Culture: ตักบาตรข้าวเหนียว หลวงพระบาง
        โชคดีที่เราเป็นชาวพุทธเหมือนกัน เราจึงซาบซึ้งกับกิจกรรมนี้ได้มากกว่าใคร การตักบาตรข้าวเหนียว เป็นกิจกรรมที่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์และความตั้งใจ แถมยังได้บุญ ตั้งแต่การที่เราตั้งหน้าตั้งตา ตั้งนาฬิกาปลุกแต่เช้า ออกไปหาซื้อข้าวเหนียวที่ตลาด จนกระทั่งมาปูเสื่อนั่งรอเวลาพระออกบิณฑบาต การใส่บาตรข้าวเหนียวนั้นก็เสมือนใส่บาตรบ้านเรา เพียงแต่จะใช้วิธีการจกข้าวเหนียวร้อนๆเป็นก้อนๆ แล้วใส่ลงไปในบาตร ผู้ชายจะยืนใส่ ส่วนผู้หญิงจะนั่งพับเพียบใส่บาตรค่ะ พระจะเริ่มออกบิณฑบาตตั้งแต่ตีห้าครึ่งเป็นต้นไป พระสงฆ์จะออกเดินเป็นสายยาวและเดินอย่างรวดเร็ว คนที่ใส่จะต้องรู้จังหวะการจกให้ดี ถ้าเป็นมือใหม่นักท่องเที่ยวอย่างพวกเราจะจกช้าจนทำให้การจราจรติดขัดได้