10 อันดับดังต่อไปนี้ จะพอเป็นGuideฉบับรวบรัดให้กับทุกคนที่กำลังจะไปเที่ยวหรือใครก็ตามที่สนใจนะคะ รู้สึกเห็นด้วยไม่เห็นด้วยก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้
1.Local Eating: แป้งจี่ Fast-foodฉบับลาว
แป้งจี่ของลาวแท้ๆ ดูก็รู้ว่าได้อิทธิพลบาเก็ตต์(baguette) ของฝรั่งเศสมาเต็มๆ Fast-food ฉบับลาวที่หน้าตาคล้ายแซนวิชไม่มีผิดเพี้ยน ต่างก็เพียงไส้ของลาวจะใส่สารพัดและยัดลงไปในขนมปังเป็นปริมาณมาก อัดแน่นจนล้นทะลักตัวขนมปังออกมา ไส้มีหลายอย่างตั้งแต่หมูสับ หมูแดง แฮม ตับบด ไก่ทอด ไข่ดาว ผักสลัด มะเขือเทศ แตงกวา แครอท หอมหัวใหญ่ ต้นหอม ทาเนยใส่ซอสพริก มีให้เลือกทั้งก้อนเล็ก กลาง ใหญ่ ตามความพอใจของผู้กินค่ะ ![](https://lh3.googleusercontent.com/blogger_img_proxy/AEn0k_vY9vFPrjqrwN3la9eE5o6DfPhd6ahdcpdmp9tsA5pKjbRe6MAr9hxQjF6LQGoJ0Cs0FGsCdsjlFzTA1K-2tyJ9hcLgeSQH-NzyschYJUDJJCTqduxUdbOivAM=s0-d)
2. Local Eating เฝอลาว ก๋วยเตี๋ยวใส่ซอสพริก
เฝอหรือก๋วยเตี๋ยว เป็นอาหารยอดฮิตที่เรารู้จักกันดี หาทานได้ง่ายและก็ไม่แปลกเกินรับประทาน ที่ลาวจะมีเฝอหลายประเภททั้งเฝอหมู ไก่ เนื้อวัว ซึ่งเนื้อสัตว์ที่ใส่มักจะใส่เป็นชิ้นๆลวก ไม่ค่อยใส่ลูกชิ้น เหมือนพวกก๋วยเตี๋ยวเนื้อสดบ้านเรานั่นแหละค่ะ
แต่จะกินก๋วยเตี๋ยวแบบลาวทั้งที ถ้าปรุงพริกป่นน้ำปลาน้ำตาลเหมือนทานอยู่บ้านเรามันจะไปได้รสชาติอะไรกันคะ.. จะให้อร่อยมันต้องโขยก !!! ค่ะ โขยกขวดซอสพริก(ที่นำเข้าจากไทย) ซึ่งวางเป็นเครื่องปรุงอยู่กลางโต๊ะนั่นแหล่ะ มันจะทำให้น้ำซุปเปลี่ยนเป็นสีแดงข้น รสชาติหวานๆเปรี้ยวๆอร่อยดี แต่ถ้ายัง deepไม่พอก็ให้แนมกับพริกขี้หนูหรือถั่วฝักยาวจิ้มกะปิ ซึ่งก็จะวางอยู่บนโต๊ะเช่นเดียวกันค่ะ
3. Drink: จิบ “ลาวเกรีย”
มีร้านอาหารชื่อดังร้านนึงในเวียงจันทน์ เค้าproudly present เครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่มีที่ร้านนี้เท่านั้น ที่ทำเอาเมนูอย่างไหมไท กามิกาเซ่ต้องชิดซ้ายไปเลย....
ลาวเกรีย(Laogria) คอกเทลที่คิดค้นขึ้นมาเฉพาะร้านนี้ สูตรคิดค้นขึ้นเฉพาะแต่ไม่ใหม่เพราะเพี้ยนมาจากแซงเกรีย “Sangria” เครื่องดื่มแสนสดชื่นสัญชาติสเปนนั่นแหล่ะค่ะ พอเอ่ยถึงแซงเกรีย หลายคนคงร้อง อ้อ....กันแล้ว ต้นตำรับนั้นคือไวน์แดงหรือไวน์ขาวผสมผลไม้สดไม่ว่าจะเป็นส้ม เลมอน แอปเปิ้ล เบอร์รี่ และพีช เติมความหวานเล็กน้อยด้วยน้ำผึ้ง ใส่บรั่นดีหรือสปิริตและก็เติมความซ่าและความสดชื่น ด้วยโซดากับน้ำแข็งเป็นการปิดท้าย ตอนนี้ย้อนกลับมาทีลาวเกรียของเรากันบ้าง แทนที่เค้าจะใส่ผลไม้ฝรั่งอย่างเบอร์รี่ พีช หรือแอปเปิ้ล ก็เปลี่ยนมาเป็นผลไม้พื้นบ้านของลาวอย่างกล้วย สัปปะรด และก็มะนาวเป็นแว่นๆแทนยังไงล่ะคะ เป็นการดัดแปลงที่เข้ากันได้เยี่ยม จิบแล้วสดชื่นกันถ้วนหน้าเชียวค่ะ
เครื่องดื่มจะเสิร์ฟมาในเหยือกพร้อมช้อนสำหรับตักผลไม้ที่กองอยู่ก้นถ้วย จำไม่ได้แล้วว่าใครเป็นคนแนะนำว่าห้ามพลาด เอาเป็นว่าฉันขอย้ำอีกแรงว่า -อย่าพลาด- ก็แล้วกัน
4 .Chill out : 1 dayจัมโบ้ทัวร์ เวียงจันทน์
จัมโบ้ (สามล้อบ้านเรา) เป็นพาหนะที่สามารถพาเราสำรวจเมืองหลวงประเทศลาวแห่งนี้ได้ภายใน1 วัน มายคิดว่าเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจมากเพราะเหมือนว่าเรามาเที่ยวหนองคายแล้วได้เที่ยวต่างประเทศเป็นของแถม เก๋มั๊ยล่ะคะ
หลังจากที่เรานั่งรถข้ามสะพานมิตรภาพ ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของลาวเรียบร้อย ตรงที่ด่านนั้นก็จะมีรถตู้ รถบัสและจัมโบ้รออยู่สารพัด ยืนอยู่เฉยๆเดี๋ยวก็มีคนเดินเข้ามาถามเองว่าจะเหมารถรึเปล่า ก็บอกไปเลยว่า ทัวร์เมือง 1 วัน พาไปไหนบ้าง ตกลงราคาและเวลาจำนวนชั่วโมง เอาให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง กันโดนโกง !
ปกติรถจะพาไป 6 ที่คือพระธาตุหลวง(พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองเวียงจันทน์), ประตูชัย(สิ่งก่อสร้างที่หน้าตาคล้าย Arc de triomphe de l'Étoile ที่ปารีสเพราะเค้าได้อิทธิพลกันมา), แล้วก็แวะตลาดเช้า กินข้าวเที่ยง, ไปต่อกันที่วัดสีสะเกด, หอพระแก้ว(อดีตสถานที่ประดิษฐานองค์พระแก้วมรกตของบ้านเรา) และสุดท้ายคือ วัดสีเมืองค่ะ(วัดศักดิ์สิทธิ์ของชาวเวียงจันทน์) ปกติทัวร์ทั้งหมดก็ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงเริ่มตั้งแต่ที่ด่านประมาณ 10 โมงเสร็จส่งที่ด่านข้ามกลับประเทศไทยก็ประมาณบ่ายสามพอดี ราคา 1 วัน(5 ชั่วโมง)ประมาณ 500-600 บาทค่ะ
5. Natural : ถนนลอยฟ้า วังเวียง-หลวงพระบาง
บนเส้นทางจากเวียงจันทร์ไปหลวงพระบางหรือถนนสาย13 เป็นเส้นทางวิ่งบนเขาตลอด13 ชั่วโมง ซึ่งอาจต้องแลกมาด้วยความอันตรายและฮาก(อาเจียนในภาษาอีสาน) เป็นปริมาณมากกันบ้าง แต่ก็คุ้มแสนคุ้มเชื่อสิ !
เส้นทางเริ่มต้นจากเวียงจันทร์ไปวังเวียงประมาณ 5 ชั่วโมง ถือเป็นการรับน้องเบาะๆ มีขึ้นเขาผ่านลำห้วยบ้างพอเป็นกระศัย ระหว่างนี้เราก็ชื่นชมธรรมชาติสองข้างทางไป พอเริ่มพ้นเขตวังเวียงไปเท่านั้น อีก 8 ชั่วโมงต่อจากนี้จะมีแต่ความสุขแบบโหดหฤหรรษ์ละค่ะ
ระหว่างทาง รถจะแวะพักยืดเส้นยืดสายที่กาสี เพราะตั้งแต่กาสีเป็นต้นไป รถจะเริ่มไต่เขาไปเรื่อยๆ โค้งซ้ายโค้งขวา มารู้ตัวอีกทีก็ถึงยอดเขา จากนั้นรถก็จะวิ่งบนสันเขาอันแสนคดเคี้ยวตลอดเส้นทางสมกับคำเปรียบเปรยที่ว่าเป็น "ถนนลอยฟ้า " อย่างแท้จริง
6. Chill out : ธรรมชาติ วังเวียง
“วังเวียง” อดีตเมืองฐานที่ตั้งกองบินฝรั่งเศสแห่งนี้ เคยมีคนกล่าวไว้ว่าเป็นเมืองคู่แฝดเมืองปาย บ้างก็อ้างว่าเป็นกุ้ยหลินเมืองลาวบ้างล่ะ จะอย่างไรก็ตามนั่นก็คงมาจากความงดงามทางธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์นั่นเอง
ที่วังเวียงเราจะได้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์จริงๆแบบไม่เคยสัมผัสมาก่อน ธรรมชาติทักทายคุณตั้งแต่เช้า โดยตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของหมอกขาว สายๆเราออกบริหารร่างกายด้วยการไปปีนถ้ำ เที่ยงพักกินข้าวเหนียวเติมพลังหลังพิงต้นไม้ข้างลากูนสีเขียวมรกตแถมด้วยการเล่นน้ำแหวกว่ายในลากูนพอเป็นพิธี บ่ายคล้อยได้เวลาไปล่องห่วงยางแม่น้ำซอง กิจกรรมสุดฮิตของวังเวียง ตกเย็นมาเดินเล่นทานข้าวในเมืองภายใต้ผืนฟ้าดวงดาวระยิบระยับนับล้านดวง แล้วก็เข้านอนอย่างมีความสุข
7. Sightseeing : สุดยอดแห่งสถาปัตยกรรมที่วัดเชียงทอง
สุดถนนสีสะหว่างวงตรงจุดที่แม่น้ำหลักสองสาย คือแม่น้ำโขงกับแม่น้ำคาน(ปากคาน) มาบรรจบกัน ที่นี่คือที่ตั้งของสุดยอดแห่งสถาปัตยกรรมล้านช้าง “วัดเชียงทอง
วัดเชียงทอง สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช มีโบสถ์(สิม)ทรงหลังคาปีกนกซ้อนเป็นลำดับลงมา 3 ชั้น เป็นศิลปะล้านช้างที่งดงามและสวยงามที่สุดในประเทศลาว บนยอดสิมประดับด้วยช่อฟ้า17 ช่อ บ่งถึงว่าเป็นวัดที่พระมหากษัตริย์เป็นผู้สร้าง เมื่อชื่นชมศิลปะภายนอกตัวอาคารแล้ว ควรเข้าไปนั่งละเลียดชมความงดงามทางสถาปัตยกรรมภายในกันต่อ ซึ่งประกอบไปด้วยภาพลายฉลุลงรักปิดทองที่บานประตู และจิตรกรรมฝาผนังลายรดน้ำเป็นเรื่องเกี่ยวกับนิทานพื้นบ้านของลาว
ภายในอาณาเขตของวัด ยังมีสถาปัตยกรรมอื่นๆที่น่าสนใจ เช่นโรงเมี้ยนโกศ หรือโรงเก็บราชรถ, หอพระม่าน และหอพระพุทธไสยาสน์ที่มีผนังสีชมพูบานเย็นประดับด้วยกระเบื้องสีบอกเล่าเรื่องราวทางศาสนา นิทานพื้นบ้านและชีวิตชาวหลวงพระบาง ซึ่งได้ลายอันมีเอกลักษณ์เหล่านั้นได้กลายสัญลักษณ์บนถุงดินสอ ผ้าทอ และของที่ระลึกของหลวงพระบาง
แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตจากถนนที่ใช้สัญจรไปมา กลายเป็นสถานที่การรวมตัวกันอย่างไม่ได้นัดหมายของทั้งนักขายและนักช๊อปใจกลางหลวงพระบางอย่างนี้ทุกๆคืน เรียกได้ว่าเป็นแหล่งซื้อของฝาก ของที่ระลึกราคาถูก มีตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ถุงดินสอ สมุด ปากกา กระดาษสา กรอบรูป ภาพวาด ภาพปัก ผ้าปูที่นอน โคมไฟ และอีกมากมาย ของขายแต่ละร้านดูเผินๆท่ามกลางความมืดอาจนึกว่าเหมือนกัน แต่จริงๆแล้วของพวกนี้เป็นงานhand madeที่เลียนแบบกันมา ฉะนั้นฝีมือร้านไหนดีกว่ากันจะต้องเปรียบเทียบก่อนซื้อเพื่อความไม่ประมาทและได้ของดี สีสันของตลาดมืดมีแต่ความสนุกสนานท่ามกลางเสียงต่อรองราคาระหว่างนักช๊อปชาวไทยกับชาวลาวที่พูดไทยได้คล่องปรื่อ แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ฉันชอบที่สุดของตลาดมืดก็คือ การที่ฉันได้เดินช้อปปิ้งภายใต้หลังคาดวงดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้า ปราศจากแสงไฟนีออนมาบดบังความงามทางธรรมชาติช่างแสนโรแมนติกเหลือเกินเชียวหล่ะ
9. View on Top: พระอาทิตย์ตกดินที่พระธาตุพูสี
พระธาตุพูสี เปรียบเสมือนหลักเมืองหลวงพระบางที่ตั้งอยู่บนยอดพูสี ภูเขาใจกลางเมืองของหลวงพระบาง การจะขึ้นไปชมนมัสการพระธาตุ จะต้องเดินขึ้นบันได328 ขั้นซึ่งประดับไปด้วยจำปาลาวหรือลีลาวดีของบ้านเราตลอดสองข้างทาง พอขึ้นมาถึงยอดพู รับรองว่าจะหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เพราะไม่เพียงแค่จะได้ขึ้นมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธ์คู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบางแต่วิวบนพูสีนั้นก็สวยงามมากจนกลายเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินยอดนิยมถึงขนาดว่ามีแนะนำอยู่ใน guidebook ทุกเล่มเลยทีเดียว
10. Culture: ตักบาตรข้าวเหนียว หลวงพระบาง
โชคดีที่เราเป็นชาวพุทธเหมือนกัน เราจึงซาบซึ้งกับกิจกรรมนี้ได้มากกว่าใคร การตักบาตรข้าวเหนียว เป็นกิจกรรมที่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์และความตั้งใจ แถมยังได้บุญ ตั้งแต่การที่เราตั้งหน้าตั้งตา ตั้งนาฬิกาปลุกแต่เช้า ออกไปหาซื้อข้าวเหนียวที่ตลาด จนกระทั่งมาปูเสื่อนั่งรอเวลาพระออกบิณฑบาต การใส่บาตรข้าวเหนียวนั้นก็เสมือนใส่บาตรบ้านเรา เพียงแต่จะใช้วิธีการจกข้าวเหนียวร้อนๆเป็นก้อนๆ แล้วใส่ลงไปในบาตร ผู้ชายจะยืนใส่ ส่วนผู้หญิงจะนั่งพับเพียบใส่บาตรค่ะ พระจะเริ่มออกบิณฑบาตตั้งแต่ตีห้าครึ่งเป็นต้นไป พระสงฆ์จะออกเดินเป็นสายยาวและเดินอย่างรวดเร็ว คนที่ใส่จะต้องรู้จังหวะการจกให้ดี ถ้าเป็นมือใหม่นักท่องเที่ยวอย่างพวกเราจะจกช้าจนทำให้การจราจรติดขัดได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น